ทุกท่านเคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมต้องมีโต๊ะจีน และทำไมจะต้องเรียกว่าโต๊ะจีนถ้าเป็นของจีนแล้วทำไมคนไทยถึงได้นำมาจัดในมาใช้ในงานพิธีต่าง ๆ ของไทยในเมื่อมันเข้ามาอยู่ในประเทศไทยแล้วทำไมมันไม่เรียกว่าโต๊ะไทยละ สงสัยกันมั้ยคะ เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่าโต๊ะจีนและอาหารจีนเข้ามาในประเทศได้อย่างไรและเข้ามาเมื่อไร เราจะได้หายสงสัยกันสักที
ย้อนเวลากลับไปในสมัยกรุงศรีอยุธยากันนะคะ สมัยนั้นได้มีชาวจีนเข้ามาตั้งรกรากและอาศัยอยู่เยอะมาก และเค้าจึงได้นำอาหารการกินและวิธีในการกินของเค้ามาถ่ายทอดให้คนไทยสมัยนั้น และการกินของชาวจีนคือเค้าจะนั่งกินบนโต๊ะ ซึ่งมีความแตกต่างจากคนไทย เพราะสมัยก่อนนั้น ตามที่เรารู้กันอยู่ก็คือคนไทยสมัยนั้นเค้าจะนั่งกินอาหารโดยนั่งกับพื้นและมักอาหารด้วยมือ การทานบนโต๊ะคงเป็นเพราะวัฒนธรรมของคนจีนที่ได้สืบทอดต่อ ๆ กันมาอย่างยาวนาน ซึ่งคนจีนเวลากินอาหารเค้าจะกินอาหารพร้อมๆ กันหลายคนและอาหารที่จะต้องมีอยู่บนโต๊ะนั้นจะต้องมี 8-10 อย่าง และต่อจากนั้นมา ก็ได้เรียกว่าเป็นการกินแบบโต๊ะจีน และการจัดอาหารจีนนั้นนิยมจัดในงานเลี้ยง งานบวช งานแต่งงาน และงานขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่แล้วจะจัดในงานที่เป็นมงคลของคนชั้นสูง เรียกง่ายๆ ก็คือ ต้องเป็นคนมีเงินและมีฐานะนั้นเองค่ะ ซึ่งสมัยนั้นก็เรียกได้ว่าต้องเป็นคนรวยจึงจะจัดได้ และยิ่งถ้าใครได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่เป็นโต๊ะอาหารจีนแล้วละก็เค้าก็คงจะต้องล้างท้องไว้รอได้เลย แน่นอนว่าอาหารจีนจะต้องมีอาหารที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีมาก และวัตถุดิบก็จะต้องดีเลิศพร้อมกับฝีมือคนทำและคนปรุงรสชาติอาหารคงต้องอร่อยล้ำ และหนีความจำเจจากอาหารไทย ดังนั้นการทานโต๊ะจีนจึงได้นิยมไปทั่วทุกหนทุกแห่งในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันนั่นเอง และ การกินอาหารจีน ครั้งแรกได้ปรากฏขึ้นในบันทึกในหนังสือของ ขุนวิจิตรมาตรา ที่ได้พูดถึงภัตตาคารของจีน รวมทั้งอาหารจีนที่คนไทยชอบ และที่คนนิยมกิน ซึ่งเมื่อเทียบที่ท่านขุนวิจิตรมาตราเขียนไว้ครั้งนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ตอนนี้ก็เป็นเวลาร่วม 100 ปีแล้วของการกินอาหารจีนและโต๊ะจีน มาถึงตอนนี้แล้วทุกท่านคงหายสงสัยเกี่ยวกับอาหารจีนในประเทศไทยของเรากันบ้างแล้วนะคะ